สวัสดีค่า สวัสดีค่ะ พบกับเปมิกาอีกแล้วเช่นเคยนะคะ
เอ๊? จำได้ไหมนะว่าเปรมเคยซื้อทัวร์กระบี่ 3 วัน 2 คืนมาด้วยแหละ
ในราคา 2,990 บาท ไงตัวเธอ (มาทบทวนความจำกันหน่อย)
ก็นั่นแหละค่ะ มันถึงเวลาเที่ยวแล้วไงหละ (รอมาตั้ง 2 เดือน)
ก็ตั้งใจอะค่ะว่ารับปริญญาเสร็จต้องขอเที่ยวแบบจริงจังครั้งหนึ่งในชีวิต
จัดค่ะจัด กระบี่นี่เอง! ลำใยมาเยอะละเข้าเรื่องดีกว่าค่ะ
….
ปล.1 ขึ้นเครื่องสายการบิน Lion Air ไปกลับ 1,600 บาท ค่ะ
ปล.2 เช็คอินเลือกที่นั่งได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มนะคะ ดี๊ดี
….
ทริปกระบี่ วันที่ 1
เช้ามารีบตื่นเลยจ้า รีบเก็บของเพราะเมื่อวานหลับเช้า เพราะง่วงนอนนี่เอง ฮ่าๆ
ออกบ้าน 9 โมงค่ะ โบก Taxi แบบกี่คันก็ไม่ไปๆ คือไร วันศุกร์ 9 โมง ฝั่งธนไม่ติดสิ
แต่โชคดีเจอพี่ Taxi ใจดีพาน้องไปถึงสนามบินดอนเมืองได้ภายใน 45 นาที (เกร๋!)
ทั้งทริปนี้เราไปสายการบิน Lioair ค่ะ เพราะถูกสุด+อยากลองนั่งด้วย (ครั้งแรก)
โดยเปรมต้องเดินไป Gate 74 (โอ๊ยไกลมาก ไกลสุดนี่หว่า) ก็อยู่ใกล้ๆ กับ
Nok Air / Air Asia อะค่ะ ในส่วนของสายการบินในประเทศไป Gate ย่านนั้นหมด
เผย! โฉมหน้าผู้พาทัวร์ทริปเราค่ะ พี่หมอนี่เอง (สามีอิชั้นเอง) อิอิ
และเราก็เดินๆ และเดินค่ะ รู้สึกว่าเดินยังไงก็ยังได้แค่ GATE 41 โดยประมาณ
แอบหันมาดูจอคอมบอกว่า SL 8574 ที่จะไปประบี่ขึ้นเครื่อง 11.15 จ้า
ค่ะ มาทันใสๆ แต่เปรมคิดว่าเผื่อเวลาเดินมากกว่าประเด็น ฮ่าๆ
เมื่อเดินสุด Gate แล้วยังไม่ถึงนะคะ ลงบันไดเลื่อนไปอีกจ้า แหม่ๆ ไกลจิง
และแล้วก็ถึงเสียที Gate 70 กว่าๆ ที่อยู่ไกลสุดของสายการบินในประเทศ
นั่งเล่นหาไรกินสักพักเขาก็เรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องค่ะ คนเยอะดีค่ะ แต่ก็นะคะ
ตาม Step ขึ้นทีหลังค่ะ จะได้ไม่แย่งคนอื่น (ป่าวหรอก กินขนมไม่เสร็จต่างหาก 55)
แน่นอน Gate 74 ไม่ได้เดินขึ้นเครื่องเลยนะคะ ขึ้นรถบัสช้า นั่งยาวๆ ไป
จากนั้นเปรมกับสามีก็ขึ้นเครื่องค่ะ ฮ่าๆๆ
….
เปรมก็มีเรื่องเล่าที่เปรมเพิ่งรู้ หรือเป็นเฉพาะสายการบินนี้ นั่นก็คือ
ตอนเครื่องขึ้นกับเครื่องลงต้องปิดเครื่องแบบ ปิดเลยอะ ไม่ใช่เปิดโหมด
เครื่องบินอะค่ะ เพราะปกติเปรมขึ้นสายการบินอื่นก็ไม่เปิดแค่โหมดเครื่องบิน
ก็ยิงยาวเลยนะ แต่ก็เป็นความรู้ใหม่ๆ ฮ่าๆๆ ><
….
ภายในเครื่องใหม่กว่าที่คิดค่ะ นั่งสบายไม่ได้แย่แต่อย่างใด (ไม่ได้ถ่ายมา)
รอบนี้ล่าช้า 15 นาทีเพราะฝนตกที่โน่นแหละ (ดีแล้วที่ตกไปตอนเราไปจะได้ไม่ตก)
….
พอถึงกระบี่ก็ขอมีถ่ายรูปโพสนิดหนึ่ง
โปรดอย่าถามว่าทำไมชุดไม่เข้ากับธีมไปทะเล ชุดที่ซักทันมีแค่นี้ ฮ่าๆ
จากนั้นมีรถตู้ที่รีสอร์ทมารับถึงสนามบินเลยคะ ขึ้นแบบ 2 คนสวยๆ เพราะ
สายการบิน Lion Air ลงไม่เหมือนชาวบ้านนี่เองค่ะ ฮ่าๆ
และ และ รีสอร์ที่เราจะพักในทริปนี้มีชื่อว่า …
มัณดาวีต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา นี่เองค่ะ ><
ได้ข่าวมาว่า Pool Villa ปังมากแต่ด้วยงบ 2,999 บาท นั้นเราจะพักที่
มัณดาวีต์ คอนโดแทนจ้า …
โดยห้องพักตรงนี้จะอยู่หลังสุดของรีสอร์ทค่ะ (ข้างหน้าเป็น Pool Villa ค่ะ)
ตรงทางเดินเข้ารีสอร์ท มีที่ฉีดเท้าก่อนเข้ารีสอร์ทด้วยนะเผื่อคนเที่ยวทะเล
ทรายติดเท้าก็ล้างเท้าก่อนเข้าได้ค่ะ ><
พอเข้ามาก็ Check In จ้า เราก็ให้พี่หมอของเราจัดการให้จ้า
และสิ่งที่ประทับใจครั้งแรก ก็คือน้ำมะตูมบริการฟรีจ้า หวานเจี๊ยบเบย
บริการตนเอง กินกี่แก้วก็ได้นะ (ตอนนั้นกินไปเยอะเพราะไม่ได้ข้าวเช้า ฮ่าๆ)
เดินไปเดินมา เห็นป้าย ไปถนนคนเดิน 150 บาท จ้า เหย อยากไปๆๆๆๆ
แต่พี่หมอบอกพรุ่งนี้ค่อยไปเนาะ วันนี้ไปอ่าวก่อน (เครๆ พรุ่งนี้ก็ได้ชิ!)
รีสอร์ทนี้คลุมธีมเป็นสีส้มค่ะ สวยดีค่ะ มีโซฟา 4 ตัว สามารถนั่งได้ประมาณ 8 คน
ถ้ามาคู่รักก็ 4 คู่ มากกวว่านี้ก็ยืนเอาละนะคะ เจ้าาานายยยยยยยยยยยยย!!
และเราก็นั่งรอ รอ รอ ค่ะ (รู้สึกว่าเขียน Blog เที่ยวเมื่อไหร่บรรยายใต้ภาพตลอด)
ขึ้นมาบนคอนโดอยู่ชั้น 3 ค่ะ ห้องมุมสุดด้วย เลยเก็บบรรยากาศรีสอร์ทมาให้ค่ะ
ตอนแรกมองๆ ไปก็ไม่สวยนะ แต่มามองมุมนี้สวยดีแฮะ ดูมีอะไรดี
ตรงตึกด้านขวาหน้านี้เป็นคอนโดจริงๆ เลยอะค่ะ ที่เขาขายให้อยู่ยาวๆ ไป
นี่คือหมายเลขห้องที่จะพักในทริปค่ะ (เอาไปแทงหวยได้ไหม!!)
เปิดเข้าห้องมา เอ๊ะๆ ไม่ให้ดูห้องมาดูคีย์การ์ดก่อน เป็นระบบเสียบจ๊ะ
ยังไม่ถึงห้องนอนหันซ้ายเจอห้องน้ำจ้า ห้องน้ำแบ่งฝั่งเปียก ฝั่งแห้งอย่างชัดเจน
มีสบู่เหลว แชมพู สบู่ก้อน คัตตันบัท ให้ค่ะ
เดินๆ เข้ามาในห้องแล้วกลับหลังหันมาแล้ว ถ่ายรูป 1 แชะ ท๊าดา
ห้องนอนแบบรวมๆ ค่า ห้องแลดูเหมือนแคบๆ แต่ใหญ่มากๆ เลย
ห้องนอนแบ่งพาทิชั่นกั้นไว้ส่วนตัวเวลานอน และแอร์มาจากห้องนอนค่ะ
จะกระจายไปสู่ห้องต่างๆ ได้อย่างคลอบคลุม (ทำไมคลอบคลุมหละ)
ก็เพราะแอร์หนาวมากหนะสิแกร เวลานอนนี่เอาผ้าห่มปิดหัวเลยยย
แอร์เปิดได้เบอร์เดียว ปรับได้แค่จะลมแรงมากหรือน้อย ฮ่าๆๆๆๆ
ซูมชัดๆ เตียงนอน สวย หรูหราดีค่ะ (แต่เตียงแอบแข็งนะ เหมือนมีโครงๆด้วย)
เดินออกมาข้างนอกห้องนอนมุมด้านซ้ายเป็นโต๊ะกินกาแฟ ทานอาหาร
แต่เอ๊ะ ทำไม เก้าอี้เไม่เหมือนกันหละ? แต่เปรมชอบเก้าอี้ดำนะ มีเบาะ ไม่เจ็บตูด
พระเจ้า! ไม่อยากเชื่อว่าห้องนอนห้องนี้มีพื้นที่ทำอาหารแบบง่ายๆ ด้วยนะคะ
มีกาต้มน้ำ ซิ้งน้ำ และตู้เย็นค่ะ เกร๋ๆ อะ คือบอกเลยมาเที่ยวเพิ่งเห็นห้องคล้ายๆ
คอนโดแล้วมีอะไรครบครันขนาดนี้ชอบๆ ><
และนี่เป็นมุมดูทีวีค่ะ มีโซฟาให้ด้วย 1 ตัวไว้นั่งสวีทค่ะ ><
หลังจากนั้นเปรมก็ขอแต่งตัวเพราะรอบ 17.00 น. ทางรีสอร์ทมีรถบริการ
ส่งไปอ่าวนาง ฟรี! ค่ะแต่ก่อนรถจะมาถึงเปรมก้ขอไปแช่น้ำตรงสระว่ายน้ำ
ด้านล่างของคอนโดนิดนุง เป็นสระน้ำคลอรีนค่ะ (ชั้นเตรียม กกน. ว่ายน้ำมาแหละ)
ณ อ่าวนาง ของแพงมาก อะไรก็แพงไปหมดแต่อันที่แพงแล้วยอมเสียตัง
ก็เจอร้านนี้แหละค่ะ JA WEAL PANCAKE นี่เอง เหยย!! คนต่อเยอะมากไง
ก็เลยเอะใจ มันจะอร่อยมั้ยวะ? มาใต้ต้องกินอาหารทะเลสิ? มึงกินโรตีเนี่ยนะ?
แต่..
ก็ซื้อมาค่ะคุณมึง 50 บาท ไส้กล้วย + ชีส อร่อยลื๊ม ใครมาต้องกินนะบอกเลย
หลังจากนั้นก็นั่งกินโรตีไป ชมชายละเทไป ว๊าว ทะเลกระบี่สวยๆ ><
แปลกมะ มาอ่าวแต่ถ่ายทะเลภาพเดียวเนี่ยนะบ้าไปแล้ว … ถถ
และหันหลังอีกทีก็เจอรถ 2 แถวเข้าเมืองเว่ย เหย ความรู้ใหม่เช่นกัน
ซึ่งหมายความว่าถ้าจะเข้าเมืองหรือจะเดินทางไปไหนก็ขึ้น 2 แถวนี้ได้เลย
ที่ไม่ได้ถ่ายทะเล หรือโน่น นี่ นั่นไม่ใช่ไร อะไรก็แพงไปหมดไง
ข้าวจากละ 100 บ้าไปละ หลังจากที่เสิทหาข้อมูลเขาว่า 7-11 ถูกสุดแล้ว
ในย่านอ่าวนาง .. จริงค่ะ ถูกสุด เลยสอยมาหมดนี่เลย ฮ่าๆ รอบนี้กูมิตายละค่ะ
ดองไว้ไปอีก 2 วันได้สบายๆ เลย
เวลา 18.30 น. รถขนหมูก็พอเรากลับเข้ารีสอร์ทค่ะ
ด้วยความโหยมาเลยถ่ายแค่ของกินมาเป็นสปาเก็ตตี้และไก่ย่าง 7-11 ค่ะ
อิ่มท้องไป 1 มื้อ และ มื้อแรกของวันค่ะ
ตบท้ายด้วยใบเสร็จต่างๆ ค่ะ ก็ ซ้ายบนชื่อทริปทัว อะไร ว่าไป
ซ้ายล่างคูปปองอาหารสำหรับ 2 คืนนี้และค่ามัดจำห้องค่ะ
เก็บ 500 บาทแหนะ แต่ก็ได้คืนตอนท้ายนะ
และนี่คือลิสทัวร์ของครั้งนี้ค่ะ ><
….
ทริปกระบี่ วันที่ 2
มอนิ่งค่ะ สวัสดีเช้าวันที่ 2 วันนี้ตื่นเช้า 7.00 น. มารับประทานอาหารเช้ากันค่ะ
บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าอยู่หน้าสุดของรีสอร์ทจ้า เดินกันจนเงิบ แต่ก็ไม่ไกลมากค่ะ
บอกเลยมุมนี้อร่อยสุด พรีเมียมสุดเพราะมันมี..
ไข่เจียวห่อๆ เป็นก้อนแบบนี้ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไรแต่มันอร่อยมากๆ อะ
และแพนเค๊กราดน้ำผึ้ง อร่อยลืม ><
และถามว่าก่อนหน้านี้กินอะไรไปบ้าง (ดูจานด้านซ้ายได้เลยค่ะ ฮ่าๆ)
เมื่ออิ่มท้องแล้วก็เดินกลับห้องก็เดินผ่านบ้าน Pull Villa ในตำนาน
ในรูปสวยอลังมาก แต่จริงๆ แล้วเก่าลงนิดหนึ่งนะแต่ข้างในคาดว่าสวย
กรื๊ดๆ แปลงกายพร้อมลุยทะเลแล้วจ้า ชุดเป็นไง เป็ดอ้วนสวยไหมคะ 55
สักเวลาประมาณ 8.30 น. ทางทัวร์ได้นัดรวมตัวกันทั้งหมดที่นี่ค่ะ จุดรวมพลๆ
จากนั้นไกต์ก็ให้เซ็นต์ชื่อค่ะ และก็แบ่งคนขึ้นรถว่าใครอยู่กับไกต์คนไหนบ้าง
หลังจากบรีฟเสร็จก็ขึ้นรถขนหมูไปหาดนพรัตน์ธาราเพื่อไปถึงเรือไปเที่ยวกัน
ขอแนะนำหน่อยตคนซ้ายไกต์น้องชื่อพี่ตั้มค่ะ และคนขวาพี่นัสมณีค่ะ 55
โดยคนซ้ายจะพาเปรมทัวร์ทริปทะเลนี้นะคะ (เสียงหวานน่าฟังดูหล่อมาก)
ในขณะที่เดินไปเรื่อยๆ เขาก็เตือนว่า ควรใส่เสื้อชูชีพทุกครั้งนะคะ ****
และๆ ยังเดินต่อไป ไม่มีอะไรมาก แค่ถ่ายข้างหลังแล้วสวยกว่าข้างหน้า ฮ่าๆ
Selfie นิดหนึ่งตอนสวยๆ อ้าปากให้เห็นเหล็กดัดเบาๆ
นี่คือเรือหางยาวชื่อน้องนัส ค่ะ จะไปเราไปเที่ยว 4 เกาะทะเลแหวกค่า
เราไม่ได้ไปคนเป็นคู่นะ เรามากันเป็นกรุ๊ปทัวร์เลยจ้า อิอิ ><
ที่แรกที่เราจะไปคือ ทะเลแหวกนี่เอง ค่า
แต่ตอนที่ไปทะเลไม่แหวกแล้วอะดิ เพราะจะต้องเช้าๆ และต้องเป็นช่วง 7 ค่ำ-10 ค่ำ
มันเป็นช่วงน้ำทะเลลงค่ะ ก็แนะนำว่ารอบหน้าจะมาดูช่วงเวลาน้ำขึ้น น้ำลงด้วยจะดีมาก
ที่เขายืนกันเยอะๆ ตรงนี้แหละทะเลแหวก มันไม่แหวกหนะสิตอนนี้
คนเยอะมากค่ะ แนะนำถ้าอยากมาสวยๆ มาเช้าๆ ส่วนตัวๆ จะดีกว่า
ตรงโน้นเกาะอะไรไม่รู้แต่ขอโฟกัสที่รูปคู่ค่ะ 55+
นี่คือความเพี๊ยนของเปรมไปเกาะข้างๆ แล้วเห็นหิน ทะเลไม่แหวก
แต่เปมิกาไปแหวกหินแทนละกันเนาะ ><
……
ภารกิจทะเลแหวกเสร็จสิ้นไป เราก็จะไปเกาะไก่กันค่ะ เพื่อที่จะมา..
ถ่ายรูปกับเกาะไก่ จริงๆ มันมีประวัติค่ะ จริงๆ แล้วคนไทยเรียกเกาะนี้ว่า
เกาะด้ามขวานค่ะ แต่คนต่างชาติเรียกชื่อนี้ไม่ได้ ไปๆ มาๆ ฝรั่งเลยเรียกเกาะนี้ว่า
Chicken island ไปซะงั้นและคนไทยอะก็เรียกตามฝรั่งว่าเป็นเกาะไก่ค่ะ
(ส่วนตัวเปรมมองไม่เห็นเป็นไก่ตรงไหน เปรมมองเป็นจิ๊มุมากกว่า)
มีใครมองแบบเปรมบ้างยกมือๆๆๆๆ
หลังจากถ่ายรูปเสร็จก็เข้าสู้โหมดดำน้ำ่ค่ะ นี่คืออุปกรณ์ดำน้ำนะ นี่ๆๆ
พี่ตั้มบอกว่าเวลาดำน้ำเราต้องอยู่ฝั่งที่เกาะบังลมให้เราค่ะ จำได้วนๆ เรือ
ไปอีกฝั่งแล้ววไปดำน้ำกันค่ะ
เปมิกาดำน้ำละค่ะ ตรงนี้ว่าย 5 นาที เจอแจ็คพอตจ้าาา
โดนแมงกะพรุนเลยจ้า ช่วงนี้หน้าแมงกะพรุนนะคะ ดีออก หมดสนุกเลย
คันทั้งตัว ทั้งวันแดงด้วย ฮือๆ ชีวิตๆ ดวงมะดีเร๊ยยย…
ตบเที่ยงเราก็มาขึ้นเกาะ ปอดะ ค่ะ มาที่นี่แล้วอย่าลืมมาถ่ายตรงป้ายเกาะด้วยนะ
ต้องมุมที่เปรมถ่ายแบบนี้เลยจะถ่ายแล้วสวยมากๆ
ถึงเราจะโดนแมงกะพรุ่นแต่เราก็ยังยิ้มสู้ค่ะ (เพี้ยนละคราวนี้)
มื้อเที่ยงนี้ขอนำเสนออาหาร 3 อย่างนั่นก็คือ
กะเพราะหมู / ผัดผักรวมมิตร / น่องไก่ ค่า
เป็นบุฟเฟ่ต์นะคะ กินได้ไม่อั้น (ดีปะละ)
เมื่ออิ่มแล้วก็เดินเล่นแถวๆ เกาะ ด้วยความกลัวดำก็รอเวลาขึ้นเรือค่ะ
แว๊บไปเห็นร้านอาหารที่เกาะ อาหารราคาเบาๆ ค่ะ เลย์ถุง 60 บาท งี้
โอ้โหแพงมาก ราคาต่างชาติชัดๆ / แนะนำตุนมาตั้งแต่อยู่ที่อ่าวค่ะ
จะได้ไม่ต้องซื้อของแพงบนเกาะเนาะ ><
ตามธรรมเนียมของคนมาเที่ยวทะเลเนาะ ต้องทีม่ากระโดดบนคู่กับทะเลจ้า
เปรมก็จัดบ้าง 100 รูป อันนี้อะดีสุดละ (สงสารคนถ่ายไม่ใช่ใครพี่หมอนี่แล)
เวลา 12.45 ถึงเวลาไปสถานที่ต่อไปค่า นี่ก็มาถึงก่อนชาวบ้านชาวช่องเค้า
เลยมาถ่ายมุมสวยๆ ระกว่าง เกาะ + เรือหางยาว (มาสายลุยนั่งเรือหางยาวปังสุด)
ขึ้นเรือหางยาวแล้ว ระหว่างที่เรากำลังไปหาดไร่เลย์นั้น
บังทอส (คนขับเรือ) ได้มีเซอร์ไพรส์ค่ะ นั่นก็คือมีผลไม้ให้กินด้วยค่า
กราบงามๆ เลยอร่อยมากๆ และทางบังก็มี
ผ้าเย็นตรา ฟูจิด้วยค่ะ มาเช็ดหน้า เช็ดมือ เช็ด อื่นๆ .. (เช็ดอะไร?)
20 นาที โดยประมาณเราก็มาถึงสถานที่สุดท้ายของทริปนี้คือ หาดไร่เลย์นี่เองค่ะ
สื่งที่ชอบที่สุดคือตรงนี้เลยค่า ร้านอาหารบนเรือค่า มีทุกอย่างสั่งได้เลย
ที่สำคัญมันถูกกว่าเกาะปอดะแหละ เปรมเลยจัดกล้วยปั่นมา 1 แก้ว /50 บาท
หลังจากนั้นเดินมาสุดหาดประมาณ 800 เมตรมาเพื่อไหว้ถ้ำแม่นางค่ะ
ก่อนถึงถ้ำพระนางก็เจอ ฝรั่งปีนเขาเพียบเลย (อย่าลองปีนบ้างจัง)
มาถึงกระบี่ทั้งทีต้องมาขอพรกับพระแม่นาง ขอได้ทุกอย่างเว้นเรื่อง
หวย กับ ความรักนะคะ ดอกจันล้านดอกเลย ..**********
และที่พลาดไม่ได้เลยมาเกาะนี้ต้องไปดูน้องลิง ซึ่งเปรมได้มา 1 รูป
ขอตั้งชื่อรูปนี้ว่า “ลิงมองบน” ยอมรับเลยค่ะลิงที่นี่ Next Top Model มากๆ
โพสจิกกล้องแตกจริงๆ ><
ตบทิ้งท้าย เปมิกาแมนๆ เล่นบาบี้กัน ณ หาดไร่เลย์ค่ะ
…
กลับรีสอร์ทกลับไปกลายร่างไปเที่ยวถนนคนเดินที่ในตัวเมืองกระบี่ค่ะ
…
การที่เราจะเข้าเมืองกระบี่ได้นั้นทางรีสอร์ทมีค่าใช้จ่าย 150 บาท ไป-กลับค่ะ
โดยมีรถขนหมูคันนี้เข้าเมืองกระบี่ประมาณ 20 นาที ค่ะ (16 โลโดยประมาณ)
โดยก่อนถึงถนนคนเดินเขาได้แวะให้มาถ่ายกับปูดำค่ะ แต่รูปนี้ถ่ายกับคนดำก่อนนะ
นี่แหละปูดำของกระบี่ถ่ายเป็นอีก Landmark กระบี่อีกที่หนึ่งค่ะ
ถึงแล้วๆ ถนนคนเดินกระบี่จ้า ไม่ได้ใหญ่ยาวมากนะ แต่เหมือนปิดแยกๆ หนึ่งค่ะ
ของกินอร่อยเยอะมากๆ ราคาน่าคบสุดๆ คือคนละโลกกับอ่าวนางเลย (ราคาชาวบ้าน)
มันก็เหมือนๆ ถนนคนเดินทั่วไปค่ะ มีครบทุกอย่างแต่แน่นอนมันต้องมีอะไรที่ปังๆสิ
ได้ข่าวหนาหูมากว่าขนมจีนที่กระบี่อร่อยทุกร้านและอร่อยจริงๆ คือที่เปรมกินจานนี้
20 บาท ค่า! เครื่องเคียงบุฟเฟ่ต์ค่ะ คือเหยอร่อย อิ่ม ดีงามมากๆ ค่ะ เอ้ยลืมบอก
เปรมกินขนมจีนน้ำยกะทิปลาค่ะ ในกทม ไม่เห็นมีนะ อยากลองของแปลกต้องมาถึงที่
แต่เผ็ดอ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ><
เหล็กหลุดตอนนั้นไม่รู้แต่ก็ดันจะกินไข่ปลาหมึกทอด คือแบบที่นี่อร่อยกว่า กทม
อะ คือเป็นไขจริงๆ ราคาไม่แพงด้วยนะ 40 บาทเอง (ได้เยอะ) จำได้ ตอนนั้นซื้อตอน
18.00 น. พอดีเลย พี่บังเขาก้น่ารักดีด้วยนะ ><
อันนี้ไกต์ แนะนำมาทีต้องมากินโรตีแยกโครมันยอง คือแบบอร่อยสุดติ่งมาก
โดยโรตีที่นี่มีให้เลือกแบบ ธรรมดา กับ แบบกรอบค่ะ และมี flavor นิดหน่อย
กล้วย ไข่ ว่ากันไป แต่ อาจจะไม่เยอะเท่าอ่าวนางร้าน มะ ร้านนั้นนะ 55
ราคาอะหรอ โรตี 30 บาท น้ำชาเย็น 20 บาท ค่ะ รวม 50 บาท
บริการดีด้วยค่ะ คาดว่าเป็นร้านที่นักท่องเที่ยวถามเยอะเลย Support บริการ
ขายของได้ดีเลยทีเดียวค่ะ
…
หลังจากนั้นก็กลับรีสอร์ทด้วยรถขนหมูเช่นเดิมค่ะ
มะได้เก็บรูปขากลับมาเพราะคันแผลที่แมงกะพรุนค่ะ 55
…
ทริปกระบี่ วันที่ 3
หม่ะกลับบ้านๆ จะกลับ กทม แล้ว ขากลับรอบนี้เรานั่งรถตู้นะคะ
แต่ก่อนจะกลับสนามบินก็ต้องแวะร้านของฝากันหน่อยค่ะ โดยคนขับ
แวะร้าน ศรีกระบี่ค่ะ
ภายในร้านก็เหมือนร้านขายของฝากทั่วไปค่ะ ก็มีของกิน ขนม น้ำพริก ต่างๆ
แต่ที่ชอบร้านนี้อาจจะเป็นเพราะ ของฝากก็เป็นของฝากใต้ไปเลยแบบไม่ได้
เอาของฝากอื่นมาขายไรงี้ ก็ยูนีคดีนะ
แน่นอนว่าเปรมไม่รู้หรอกว่าอะไรเขาน่าซื้อกลับมาบ้างแต่เห็นป้ายสินค้าแนะนำมา
ก็เลยถ่ายมาฝากเผื่อใครอยากได้อะไรเนาะ
อ่ะ อีกป้าย ปล. น้ำพริกอร่อยจริงนะ อย่าลืมซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านหละ
ข้างในก็อารมณ์เป็นร้านเล็กๆ ไม่ได้ใหญ่มากค่ะ (ใจเปรมลอยไปขนมโน้นแล้ว)
นี่แหละ ขนมที่รอคอย รู้อย่างเดียวมาใต้ต้องจนมเค้กอะ เพราะมีเพื่อนอยู่ตรังค่ะ
นางซื้อเค๊กตรังมา แต่เรามากระบี่ก็ลองซื้อเค้กกระบี่มาค่ะ (จัดไปสองกล่องสวยๆ)
ก็พอซื้อหอมปากหอมคอค่ะ เพราะของพวกนี้กินแล้วอ้วนไง ก็เอาแบบให้รู้รสพอ
ชอบอันไหนรอบหน้าค่อยมาใหม่ละกันเนาะ ><
…
ณ สนามบิน
เรามาถึงสนามบินก่อนเวลา 2 ชั่วโมงค่ะ เปรมกับพี่หมอก็นั่งเล่นสักพักใหญ่
พอใกล้ถึงเวลาก็ Check in เข้ามาด้านในค่ะ ซึ่งเหยไม่อยากเชื่อว่า ด้านใน
คนเยอะ ร้านของกินเพียบเลยอะ ฮ่าๆ ตอนแรกกวาดตาหา Black Canyon ไง
แหม่ แต่ที่ไหนได้มาซ่อนตัวอยู่ในข้างในนี้เอง เฮ้อ นั่งกินร้าน illy อยู่ตั้งนาน
นี่ไงๆ เครื่องบินขากลับไป กทม ของเรา สวยเนาะ
แต่ แต่ แต่ ก่อนขึ้นเครื่อง ฝนตกจ้า แรงมากด้วย 55 อะไรจะดี๊ดี (ออก) ขนาดนี้
Selfie ก่อนกลับ อย่าตกใจทำไมเปรมใส่ชุดเดิม (ชุดหมดไง) 55
ขากลับเรากลับในเที่ยวบินที่ SL 8575 ที่กำลังเดินทางไปดอนเมือง
…
เรื่องเล่าบนเครื่องขณะกลับกรุงเทพ
จะเรียกว่าเป็นเที่ยวบินที่สบายก็ว่าได้แต่ก็ไม่ใช่ เพราะมีเด็กกรีดร้องตลอดทาง
อันนี้พอหยวน แต่อีกสิ่งที่หยวนไม่ลงนั่นก็คือ เวลาเครื่อง Landing ลงรู้สึกได้ว่า
มันลงแบบว่า ขับรถแล้วลงสะพานสูงๆ มะ นั่นแหละแบบนั้นเลย คือเสียวมาก
ทั้งขาไปและขากลับ ก็เห็นเป็นแค่สายการบินนี้นะ สงสัยเป็น Zignature ของที่นี่มั้ง
5 5 5
ถึงแล้วค่ะ ดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ ทิ้งท้ายนี่ขอฝากคำคมกะละแมที่ว่า
ขอขอบคุณ Lionair บินสบาย (หึ) ตามใจนักบิน เสียวดีค่ะ
ปล. เปล่า Sponsor สายการบินนะ ซื้อบินเองค่ะ 55
……..
เป็นอย่างไรบ้างคะ ทริปนี้ รูปเยอะ บรรยายน้อย ก็อาจจะเขียนได้ไม่ลึก
เท่าไหร่นะคะ เพราะอาจจะเพิ่งเริ่มเขียนท่องเที่ยวเนาะ ยังไงก็ฝาก
กราบขออภัยหากเขียนได้ไม่ละเอียดหรืออะไรยังไง ฮ่าๆ ไว้รอบหน้า
ไปไหนอีกเปรมจะมาเขียนอีกนะ สำหรับทริปนี้ลาไปก่อนค่ะ
สวัสดีค่ะ
#pemikaz
